วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1x42.gif
        เยาวชนไทยในฐานะพลเมืองของชาติ จะต้องตระหนักในบทบาทหน้าที่ของความเป็นพลเมืองดี และประพฤติปฎิบัติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า และเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบ

เรื่องที่ 4 พระบรมราโชวาทและหลักการทรงงาน

เรื่องที่ 4 พระบรมราโชวาทและหลักการทรงงาน

นการทรงงานพระองค์จะทรงเริ่มต้นจากสิ่งที่จำเป็นของประชาชนที่สุดก่อน ได้แก่ สาธารณสุข เมื่อมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้วก็จะสามารถทำประโยชน์ด้านอื่นๆ ต่อไปได้จากนั้นจะเป็นเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและสิ่งจำเป็นในการประกอบอาชีพ อาทิ ถนน แหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค ที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการให้ความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีที่เรียบง่าย เน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ราษฎรสามารถนำไปปฏิบัติได้และเกิดประโยชน์สูงสุด ดังพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๑๗ ความตอนหนึ่งว่า
"...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน ใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มสร้างความเจริญยกเศรษฐกิจให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชน โดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด ดังเห็นได้ที่อารยประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในเวลานี้ การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชน ในการประกอบอาชีพและตั้งต้วให้มีความพอกิน พอใช้ก่อนอื่นเป็นพื้นฐานนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะผู้ที่มีอาชีพแลฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงได้ต่อไปโดยแน่นอน ส่วนการถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลวและเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์..."

เรื่องที่ 3 การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

เรื่องที่ 3 การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

     สถาบัน พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ และเป็นสถาบันหลักของชาติ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณนานัปการที่ทรงปฏิบัติ มีผลให้ประเทศไทยเป็นปึกแผ่น รุ่งเรือง สงบร่มเย็นเป็นเอกราชมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น คนไทยทุกคนจึงควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป 
เสริมสร้างคำนิยมไทย
การแสดงออกถึงความรักและความเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเสาหลักของชาติ สามารถปฏิบัติได้อย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับค่านิยม 12 ประการ
บทบาทสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
1. การดำรงรักษาเอกราชของชาติ
2. การเป็นศูนย์รวมของความสามัคคีของคนในชาติ
3. การสร้างสรรค์และดำรงรักษาวัฒนธรรมไทย
4. การทำนุบำรุงศาสนา
1. คุณค่าและความสำคัญของการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
    พระมหากษัตริย์ของไทยแต่ละพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนา และแก้ไขปัญหาของชาติต่าง ให้ประชาชนอยู่รวมกันอย่างสงบสุขสืบต่อกันมา 
 คุณค่าและความสำคัญของการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีดังนี้
   1. เป็นศูนย์รวมจิตใจของตนในชาติ
   2. เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
   3. เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของประเทศไทย
    สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน พระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ คนไทยทุกคนจึงควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่สังคมไทยสืบไป
2. การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
     สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสำคัญในการจรรโลงสังคมไทยให้ดำรงอยู่อย่างมั่นคงเช่นเดียวกับสถาบันชาติและสถาบันศาสนา ดังนั้น นักเรียนจึงควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนี้
1. เคารพเทิดทูนในฐานะทรงเป็นประมุขของชาติ
2. เคารพในสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ เช่น ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี จัดวาสงพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่สูงอย่างเหมาะสม เป็นต้น
3. ศึกษาพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
4. ปฏิบัติตามคำสอนที่ปรากฏในพระบรมราโชวาทในวโรกาสต่างๆ
5. เผยแพร่และนำโครงงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ ไปปฏิบัติให้บังเกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

เรื่องที่ 2 การยึดมั่นในศาสนา

เรื่องที่ 2 การยึดมั่นในศาสนา

                 ประพฤติปฏิบัติตน กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ชอบด้วยกฎหมาย  โดยการไม่กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม  ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  ช่วยรักษาและทะนุบำรุงพุทธศาสนาประเพณีและวัฒนธรรม ตามสมควร  ให้ความสำคัญในการดูแล อบรมสั่งสอนนักเรียนในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี      ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด  การกระทำผิดกฎหมาย สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข  ร่วมรณรงค์    
ส่งเสริมให้และความรู้ ในกิจกรรมรณรงค์วันต่อต้านยาเสพติด  กิจกรรมอนุรักษ์พลังงานที่โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัด 


การยึดมั่นในคุณธรรม  จริยธรรม  มีความศรัทธาและปฏิบัติตนตามหลักศาสนา
                    ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักของพุทธศาสนา  หลีกเลี่ยงอบายมุขทุกชนิด  ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานและนักเรียน  รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางพุทธศาสนา        
การทำบุญตักบาตร ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นนิสัย  แนะนำตักเตือนผู้ร่วมงาน  และนักเรียนให้หลีกเลี่ยงอบายมุขทุกชนิด  ปฏิบัติตนอย่างมีคุณธรรม จริยธรรมต่อเพื่อนร่วมงานและนักเรียนเสมอ
(เอกสารอ้างอิง 1.  คำสั่ง 2.  ภาพถ่ายที่เกี่ยวข้อง 3.  เกียรติบัตร 4.  หนังสือรับรอง)
                         2.3  การยึดมั่นในหลักนิติธรรม ยืนหยัด การกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
                   ประพฤติปฏิบัติตน กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ชอบด้วยกฎหมาย โดยการไม่กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม  ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  ช่วยรักษาและทะนุบำรุงพุทธศาสนาประเพณีและวัฒนธรรม ตามสมควร ให้ความสำคัญในการดูแล อบรมสั่งสอนนักเรียนในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี  ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด  การกระทำผิดกฎหมาย สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ร่วมรณรงค์ ส่งเสริมให้และความรู้ ในกิจกรรมรณรงค์วันต่อต้านยาเสพติด  กิจกรรมอนุรักษ์พลังงานที่โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัด 
(เอกสารอ้างอิง 1. คำสั่ง  2.เกียรติบัตร)
                          2.4 การยึดมั่นในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  และวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
                        ข้าพเจ้าได้ประพฤติปฏิบัติตน ในการใช้สิทธิและหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย    
โดยการไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งต่างๆ ที่เรามีสิทธิในการเลือกตั้ง ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง สมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล การเลือกตั้งครู หรือตัวแทนครูในการเข้าไปทำหน้าที่    หรือหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการส่งเสริม  สนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเช่น ให้ความร่วมมือกับทาง คณะกรรมการสำนักงานเลือกตั้ง โดยได้ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้งถึง 5 ครั้ง และเป็นกรรมการนับคะแนน 3 จนกระทั่งคณะกรรมการสำนักงานเลือกตั้งได้มอบเกียรติบัตรในระดับโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือในการเลือกตั้งสภานักเรียน หรือแม้แต่การเลือกหัวหน้าห้องเรียนในที่ปรึกษา  โดยวางตัวเป็นกลาง และยึดถือระบอบระชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข    
(เอกสารอ้างอิง  1คำสั่ง  2ภาพถ่ายที่เกี่ยวข้อง  3. โครงการรณรงค์เลือกตั้ง  4.เกียรติบัตร)
                         2.5 การมีส่วนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย  และสิ่งแวดล้อม
                        มี ส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียนและชุมชนในการการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และสิ่ง แวดล้อม โดยการเข้าร่วมกิจกรรมแห่เทียนพรรษาประจำปีของชุมชน  กิจกรรมวันลอยกระทง  กิจกรรมวันพ่อ วันแม่แห่งชาติ และกิจกรรมอนุรักษ์พลังงาน  ที่โรงเรียน  องค์การบริหารส่วนตำบลและชุมชนร่วมกันจัด  เพื่อเป็นการส่งเสริมและช่วยกันรักษาประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามร่วมทั้งปลูกจิตสำนึกที่ดีกับนักเรียนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนและท้องถิ่น  และยังร่วมขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางประวัติศาสตร์ และวัฒธรรมท้องถิ่น
(เอกสารอ้างอิง  1. คำสั่ง  2. ภาพถ่ายงานประเพณี  บุญเดือนหก,งานวันออกพรรษา,งานวันลอยกระทง,งานแข่งขันวัดแววอัจฉริยะ,งานประเพณีชุมชนต่างๆ)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ · เรื่องที่ 1 ความรักชาติ

                                       เรื่องที่ 1 ความรักชาติ

ชาติไทย  มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ผ่านเหตุการต่างๆ มากมายหลายยุคสมัย คนไทยอยู่บนแผ่นดินไทยได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขจนถึงทุกวันนี้ เพราะเรามีบรรพบุรุษที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องความเป็นเอกราชของชาติไว้เราคนไทยจึงควรตระหนัก ปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะนำไปสู่ความป็นชาติที่เจริญและมีความสงบสุข
๑ คุณค่า ความสำคัญของความรักชาติ
ประเทศชาติจะมีความเจริญก้าวหน้า และเป็นปึกแผ่นได้นั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่คนในชาติจะต้องรักและหวงแหนในชาติ มีความปรารถนาดีต่อชาติ ไม่คิดร้ายหรือมุ่งทำลายชาติ คนไทยควรยึดถือปฏิบัติ ความรักชาติจะเกิดขึ้น จิตใจของคนไทยทุกคน และนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติที่แสดงถึงความรักชาติอย่างแท้จริง
คุณค่า ความสำคัญของความรักชาติ
- ประเทศมีความเป็นปึกแผ่น
- ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
- คนในชาติมีความรัก ความสามัคคี
- ประเทศมีความสงบสุข ร่มเย็น และปลอดภัย
- ปัญหาสังคมเกิดขึ้นน้อย
- เมื่อเกิดเหตุวิกฤติของประเทศ ก็สามารถผ่านพ้นไปได้โดยเร็ว
- คนในประเทศอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
๒ การปฏิบัติตนเป็นผู้มีความรักชาติ
เคารพต่อสัญลักษณ์ของชาติไทย
- ยืนตรงเคารพธงชาติ  เมื่อเราได้ยินเพลงชาติ เราจะต้องแสดงความเคารพทุกครั้ง
- ร้องเพลงชาติไทยให้ถูกต้อง  ร้องเพลงชาติได้อย่างถูกต้อง เข้าใจในเนื้อหา ซาบซึ้งในความหมาย มีความภาคภูมิใจทุกครั้งเมื่อร้องเพลงชาติไทย
- ประดับธงชาติไทยอย่างเหมาะสม  เราจะต้องประดับธงชาติให้ถูกกับกาลเทศะตามแบบแผนของสังคมที่กำหนดไว้
ปฏิบัติตามหน้าที่ของคนไทย
- พิทักษ์รักษาชาติ  เพื่อให้ประเทศชาติและสถาบันหลักของชาติมีความมั่นคงเข้มแข็งต่อไป
- ป้องกันประเทศ  เฝ้าระวังสอดส่องการกระทำของผู้ที่ไม่หวังดีที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชาติ หรือเมื่อเกิดภัยต่างๆ
- ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง  เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง
- ปฏิบัติตามกฎหมาย  คนไทยจะต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สังคมมีความสงบสุข
๓ การปฏิบัติตนเพื่อแนะนำผู้อื่นให้มีความรักชาติ
๑. แสดงออกถึงความรักชาติ  ปฏิบัติตรที่เป็นการแสดงออกถึงความรักชาติอย่างเปิดเผยและภาคภูมิใจ
๒. บอกเล่าถึงความรักชาติ  อธิบายถึงความสำคัญของการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความรักชาติให้ผู้อื่นเข้าใจและเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นชาติ
๓. แนะนำวิธีปฏิบัติตนเป็นผู้มีความรักชาติ  บอกแนวทางปฏิบัติตนที่ถูกต้องของการเป็นผู้มีความรักชาติ
๔. ยกย่องชมเชยผู้มีความรักชาติ  ให้การยกย่องชมเชยผู้ที่ปฏิบัติตนมีความรักชาติ
๔ ผลดีที่เกิดจากการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความรักชาติ
ผลดีจากการเป็นผู้มีความรักชาติ
- ผลดีต่อตนเอง  ๑. เกิดความสุขทางจิต  ๒. ช่วยให้ตนเองเป็นคนมีคุณค่า  ๓. เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
๔. สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

- ผลดีต่อสังคม  ๑. สังคมมีระเบียบวินัย  ๒. ช่วยลดปัญหาทางสังคม  ๓. สังคมเกิดความสงบสุข

๔. สังคมมีความน่าอยู่
- ผลดีต่อประเทศชาติ  ๑. ประเทศมีความเจริญอย่างยั่งยืน  ๒. ประเทศชาติมีความเข้มแข็ง  ๓. ประเทศมีความน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับของสากล  ๔. ประเทศชาติพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว